วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

การสมัคร blog

การสมัครblog

ขั้นตอนการทำ

1.เข้าไปที่เว็บhttp://www.blogger.com/


2.คลิกเมนู






3.คลิกที่ดูบล๊อก






4.ผลลัพธ์ที่ได้คือ

ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สามปี 2551 และแนวโน้มปี 2552

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสามปี 2551 ขยายตัวร้อยละ 4.0 ชะลอลงต่อเนื่องจากร้อยละ 6.0 ในไตรมาสแรก และร้อยละ 5.3 ในไตรมาสสอง จากอุปสงค์ภายในประเทศและการส่งออกชะลอลง รวมสามไตรมาสเศรษฐกิจ ขยายตัวร้อยละ 5.1 ซึ่งนับว่าภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดีและจะช่วยรองรับแรงกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ซบเซาในระยะต่อไป
ภาพรวมเศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพโดยที่แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงตามภาวะราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภค ภัณฑ์ที่ลดลง แต่ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ในไตรมาสสามอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับร้อยละ 7.3 โดยที่เงินเฟ้อรายเดือนลดลงจากร้อยละ 9.2 ในเดือนกรกฎาคมเป็นร้อยละ 6.4 และ 6.0 ในเดือนสิงหาคมและ กันยายน และในเดือนตุลาคมเงินเฟ้อลดลงเป็นร้อยละ 3.9 แต่ทั้งดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ซึ่งเป็นผล จากที่การส่งออกชะลอตัวแต่การนำเข้ายังเร่งตัวขึ้น และรายได้จากการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่ สงบในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจโลก ประกอบกับไตรมาสสามอยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว สำหรับอัตราการว่างงาน เฉลี่ยยังต่ำเท่ากับร้อยละ 1.2
อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงปลายไตรมาสมีผลให้อัตราดอกเบี้ย แท้จริงเพิ่มขึ้นแม้จะยังเป็นอัตราที่เป็นลบ สินเชื่อเร่งตัวมากขึ้น ในขณะที่เงินฝากยังลดลงต่อเนื่อง ทำให้ สภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินเริ่มมีสัญญาณตึงตัว ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลง ต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยลดลงมากและมีความผันผวนเป็นช่วง ๆ ตาม การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในภาวะที่ผลกระทบจากปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพได้นำไปสู่วิกฤต ทางการเงินที่แผ่เป็นวงกว้างมากขึ้น
ฐานะการคลังขาดดุลงบประมาณแต่เกินดุลเงินสดต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วของปีงบประมาณ 2551 โดยที่ มีรายได้นำส่งคลังเพิ่มขึ้นมากแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 มี จำนวน 3.41 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับยอดหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551
คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจ โลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากจะมีผลให้การส่งออกชะลอลงชัดเจน รวมทั้งปี 2551 เศรษฐกิจไทยมี แนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.5 เทียบกับร้อยละ 4.8 ในปี 2550 อัตราเงินเฟ้อเท่ากับร้อยละ 5.6 อัตราการ ว่างงานเฉลี่ยทรงตัวที่ร้อยละ 1.4 และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ สรอ.เทียบกับที่ เกินดุล 14,049 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในปี 2550ในปี 2552 คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจการเงิน โลกชะลอตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น และทำให้การส่งออกชะลอตัวมาก ในขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ ยังขยายตัวต่ำ จึงคาดว่าโดยรวมเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.0-4.0 อัตราเงินเฟ้อเท่ากับร้อยละ 2.5-3.5 และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลร้อยละ 1.2 ของ GDP
การบริหารเศรษฐกิจในปี 2552 เน้นการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศนำ โดยใช้ งบประมาณรายจ่ายรัฐบาลและการดำเนินโครงการภาครัฐ และดำเนินมาตรการเพื่อดูแลผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ การดูแลแรงงานผู้ถูกเลิกจ้างงาน ให้มีสวัสดิการรองรับที่เหมาะสมและได้รับการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและ จัดหางานใหม่ การดูแลสาขาการผลิตและบริการที่อาจได้รับผลกระทบรุนแรง เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น และวางกลไกช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเผชิญราคาผลผลิตลดลงให้สามารถวางแผนการผลิต และได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม รวมทั้งการดูแลด้านสภาพคล่องให้มีเพียงพอ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2376 ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

การวิเคราะห์ เจาะเส้นทาง'อัล-ไกดา' จากอัฟกานิสถานสู่ไทยแลนด์

ครบรอบหนึ่งปี วินาศกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และหนึ่งปี ที่คนทั่วโลกหวาดหวั่นกับ 'อัล-ไกดา' และ 'ออสมา บิน ลาเดน' ด้วยเกรงว่า คนกลุ่มนี้ จะกระทำการรุนแรง ในแผ่นดินของตน กิ่งอ้อ เล่าฮง แกะรอยกลุ่มก่อการร้ายอัล-ไกดาในเมืองไทย ว่ามีความเป็นไปได้ไหม ว่าพวกเขาแอบซ่อนอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง สามผู้ต้องหาชาวรัสเซีย เชอเรมนีคห์ เฟลิกซ์, มันลิเดียฟ มารัต,และ กูโดยารอฟ เรนัต ซึ่งก่อเหตุอุกอาจบุกปล้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพัทยาใต้ แล้วพาหลบหนีก่อนจะไปจนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมืองปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แทบจะกลายเป็นโจรกระจอกทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียออกมายืนยันว่า พวกเขาไม่ใช่อดีต 'เคจีบี' ตกอับตามที่สันนิษฐานไว้ตั้งแต่ต้น และคนเหล่านี้จะต่ำชั้นเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับชื่อของกลุ่มบุคคลในเครือข่าย 'อัล-ไกดา' ของ ออสมา บิน ลาเดน มหาเศรษฐีนักรบชาวซาอุดีอาระเบียที่กำลังถูกตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตายจากหน่วยไล่ล่าของกองทัพอเมริกา หลังโศกนาฏกรรมเครื่องบินวิ่งชนตึกเวิลด์เทรดกลางมหานครนิวยอร์ก ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2544 ที่ผ่านมา ล่าสุดแม้สหรัฐอเมริกาจะมีความสามารถในการตรวจค้นข้อมูลทันสมัยและกวาดจับลูกสมุนในเครือข่ายของเขาได้บางส่วน แต่ไม่ได้หมายความว่าความหวาดวิตกต่อเหตุร้ายจะลดลง โดยเฉพาะในทุกๆ เขตแดนที่ถูกกำหนดให้อยู่ในการดูแลของรัฐบาลสหรัฐ โดยไม่ได้มีข้อยกเว้นว่า สถานที่นั้นๆ จะอยู่แห่งใดในโลก ทุกพื้นที่อันตรายเท่ากันหมด ไม่เว้นดินแดนเล็กๆ อย่าง กรุงเทพฯ
จับตาการเคลื่อนไหวกลุ่มคลั่งศาสนา
"หลังเหตุการณ์ 11 กันยาฯ มีกลุ่มวัยรุ่นมุสลิม ในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความนิยม บิน ลาเดน เยอะมาก จุดนี้ทำให้กลุ่มกำลังของ GMIP หรือเบอร์ซาตู เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับตำรวจในพื้นที่ก็สร้างเงื่อนไขมาก ไม่สนใจที่จะแก้ปัญหา ก็เลยหนักหน่อย" แหล่งข่าวด้านความมั่นคงให้ข้อมูล หลังเกิดเหตุสยองในสหรัฐ แม้เขตชายแดนไทย-มาเลเซียจะไม่ใช่เป้าหมายหลักที่กลุ่มอัล-ไกดา เข้ามาเคลื่อนไหวเพื่อก่อเหตุร้าย แต่ต้อง
ยอมรับว่าในฐานะพื้นที่อันเป็นเขตรอยต่อที่พี่น้องชาวมุลสิมทั้งสองประเทศติดต่อกันมาช้านาน ก็อาจมีช่องว่างที่ทำให้บางคนในกลุ่มผู้ก่อการร้ายแฝงเข้ามาหลบภัยได้เช่นกัน "ความจริงก็คือ เครือข่ายเหล่านี้จะถึงกันหมด อย่าง เบอร์ซาตู เป็นองค์กรใหญ่ เขารับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ส่วนมูจาฮีดีน เป็นนักรบเพื่อพระเจ้า กลุ่มวัยรุ่นที่เข้าร่วมอาจเป็นมุสลิมหัวรุนแรง แต่ก็มีบางคนที่เข้ามาโดยไม่ได้มีอุดมการณ์อะไร ตรงนี้ก็ต้องระวัง" เป็นภาพความเคลื่อนไหวที่ถูกเกาะติดจากหน่วยงานด้านความมั่นคง
ไม่เพียงการเกาะติดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากประเทศคู่สงครามกับอเมริกาเท่านั้น แต่การติดตามเครือข่ายอัล-ไกดา ในนามความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อป้องกันการก่อการร้าย ด้วยการทำสนธิสัญญาต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งสหรัฐเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเฉพาะในเขตเอเชีย อย่าง ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย รวมทั้งประเทศไทย ยิ่งทำให้มาตรการจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่เป็นชาวมุสลิมยิ่งเข้มงวดมากขึ้น "ที่เขาเน้นพื้นที่จุดดังกล่าว โดยเฉพาะเอสซารา หรือพื้นที่ราบทุกแห่งในเขตอัฟกานิสถาน เป็นแหล่งปลูกยาเสพติดที่มีรสชาติที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมาเฟียอิตาลี และประเทศใกล้เคียงจะเข้ามารับสัมปทานในเขตนี้ ที่นี่ถือเป็นแหล่งเงินสำคัญของใครก็ตามที่เข้ามาคุมบริเวณนี้ได้" ด้วยการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสถานะทางการเงินของคนเหล่านี้ทั่วโลก ซึ่งจริงๆ แล้วเขาทำมาก่อนนั้น และเพื่อความสอดคล้องกับประเทศต่างๆ ด้วย ก็เลยกำหนดกลุ่มก่อการร้ายไว้ทั้งหมด 18 กลุ่ม แล้วขอใช้อำนาจทางกฎหมายของสหประชาชาติ ให้ทำการตรวจสอบรายชื่อและการทำธุรกิจของบุคคลเหล่านี้" แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าว และให้ภาพการทำงานหน่วยงานภายใต้การกำกับของสหรัฐ เช่น FBI และ CIA ว่า ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
แตกรังสู่เอเชีย
มาตรการกดดันกลุ่มอัล-ไกดา หลากรูปแบบที่สหรัฐอเมริกานำมาใช้ ทำให้พลพรรคของบิน ลาเดน ต้องแตกกระฉานซ่านเซ็นไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเอเชีย และประเทศไทยก็อยู่ในจำนวนนั้นด้วย แหล่งข่าวด้านความมั่นคงให้ข้อมูลว่า ยุทธการไล่ล่ากลุ่มเครือข่ายอัล-ไกดา อย่างหนักหน่วงของหน่วยงานฝ่ายต่างๆของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และประเทศที่มีกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลาม ได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย "อาจกล่าวได้ว่า ไทยเป็นสวรรค์ของกลุ่มก่อการร้าย เหตุที่เขาจะไม่ทำอะไรในประเทศไทย เพราะถ้าทำ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐก็ต้องตามจับ สู้กบดานอยู่เงียบๆ ไม่ดีกว่าหรือ ถามว่าเรากลัวเขาหรือไม่ ตอบตรงๆ ก็คือ ไม่กลัว แต่ที่กลัวคือมือที่สามที่เข้ามาสร้างความชอบธรรมบางอย่างให้ตัวเอง" เป็นการวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง
ในขณะที่ข้อมูลจากหน่วยข่าวด้านข่าวกรองในระดับสากล ให้ข้อมูลว่า หลังจากรังซ่องสุมกำลังพลในเครือข่ายอัล-ไกดา แตก ทำให้เส้นทางการหลบหนีของคนเหล่านี้ แยกออกเป็น 2 ทาง ซีกหนึ่งแยกไปทางประเทศมุสลิม เช่น อิรัก อิหร่าน อีกซีกหนึ่งเข้ามาทางเอเชียใต้ แต่กระนั้นทางของกลุ่มคนเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะแม้แต่ประเทศมุสสิมอย่าง อิหร่านก็ยังต้องจับคนร้ายส่งให้กับซาอุดีอาระเบีย
เชื่อมเครือข่ายข่าวต้านเหตุร้าย
ชนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงทำให้สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ยังมีผลให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยข่าวทั่วโลกด้วย ชาติต่างๆ ขาดความมั่นใจทางด้านความปลอดภัย เพราะศักยภาพของเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายสามารถทะลุทะลวงได้ทุกแห่ง ไม่ว่า เคนยา หรือแทนซาเนีย ซึ่งมีปัญหาถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตี ทั้งๆที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกาเลย อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในไทยนั้น แหล่งข้อมูลด้านข่าวกรองในระดับสากล ยืนยันว่า หากเป็นกลุ่มคนร้ายที่เป็นมืออาชีพ การติดตามของเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ทันท่วงที แต่จะใช้เวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้นก็จะสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าอยู่ตรงไหน แม้โลกของศาสนาจะสอนให้มีความสันติในการอยู่รวมกันของหมู่มวลมนุษย์ แต่ในโลกของความเป็นจริงสันติสุข และสันติภาพสำหรับประเทศตะวันออกกลาง ยังไม่มีทีท่าจะเกิดขึ้นได้เลย ออสมา บิน ลาเดน กลายเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของกลุ่มวัยรุ่นมุสลิมหัวรุนแรง ในขณะที่สหรัฐกับกลายเป็นศัตรูร่วมของมุสสิมทั่วโลก จนทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือนอยู่ ณ เวลานี้
ล้อมกรอบ "ไทยไม่พร้อมเป็นศัตรูกลุ่มก่อการร้าย"
พลิกโฉมอย่างสิ้นเชิงจากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อการร้ายในประเทศไทย ซึ่งแม้จะมีความเข้มข้นในการตรวจสอบคนเข้าออกมากขึ้นกว่าเดิม แต่นั่นก็แรงบีบบังคับที่ทำให้ไทยต้องยอม เพื่อไม่ให้รัฐบาลสหรัฐเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเรามากนัก แต่ขณะเดียวกันหลังจากประเมินสถานการณ์การแล้ว ไทยเองก็ไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่มขึ้น หน่วยงานข่าวด้านความมั่นคงทั้งตำรวจและทหาร ประเมินสถานการณ์ตรงกันว่า ผลพวกที่เกิดขึ้นครั้งนั้น สหรัฐได้สร้างปัญหาเกิดขึ้น 3 อย่าง คือ 1.รัฐบาลของทุกประเทศถูกกดดันทั้งๆ ที่ในทุกประเทศมีมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมาก 2.กลุ่มก่อการร้ายก็ถูกกดดันมากขึ้น และ 3.จากการกดดันข้างต้นทำให้การตอบโต้สหรัฐจากกลุ่มก่อการร้ายก็จะเปลี่ยนไปโดยไม่เลือกสถานที่ "เราตามดูห่างๆ ตราบใดที่เขายังไม่ทำอะไรผิด ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะการจับนอกจากเป็นการเพิ่มศัตรูแล้ว ยังเป็นการขยายเครือข่ายให้เขาเข้มแข็งมากขึ้น สมมติเข้ามา 100 คน เราจับได้ 30 คน ถามว่าอีก 70 คนที่เหลือ เราพร้อมจะสู้กับเขาหรือไม่ เราจะตามเครือข่ายเขาได้แค่ไหน แต่ในเรื่องนโยบายการต่อต้านการก่อการร้ายสากล นโยบายนี้เราทำแน่นอน ขณะเดียวกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสร้างศัตรูเพิ่มไม่ใช่หรือ" แหล่งข่าวตั้งคำถามทิ้งท้าย
อ้างอิงข้อมูลการวิเคราะห์ : ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กรุงเทพจุดประกาย 2550

ที่มาlearners.in.th/file/gumpanat/งานชิ้นที่%206%20%20นายกัมปนาท%20%20บุญ...

สถานที่ท่องเที่ยว



ข้อมูลทั่วไป สวนสนบนภูหนาว....อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวอยู่ในท้องที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธาร มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง มีเนื้อที่ประมาณ 603,750 ไร่ หรือ 966 ตารางกิโลเมตร
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กำหนดป่าน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2511 กรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพพื้นที่บริเวณป่าน้ำหนาว ปรากฏว่า มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 1/2513 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2513 เห็นชอบให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 142 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2515 กำหนดบริเวณป่าน้ำหนาวในท้องที่ตำบลบ้านโคก อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านติ้ว ตำบลห้วยไร่ อำเภอหล่มสัก ตำบลน้ำหนาว อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ และตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติ เนื้อที่ประมาณ 603,750 ไร่ โดยประกสศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 89 ตอนที่ 71 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2515 เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 5 ของประเทศ

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ประวัติส่วนตัว





ชื่อนายอภิสิทธ์ สาสีเสาร์ ชื่อเล่น เอ่ย

เกิดวัน อังคารที่ 9 เดือน พฤษภาคม 2532

อายุ 19 ปี

ที่อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ 32130
Tel. 0877791646
Email. ehai-po@hotmail.com. ahei51011311322@gmail.com

hi5. realmarid-001.hi5.com. ehaiza.blogspot.com

ครอบครัวมีทั้งหมด 5คน ประกอบด้วย
1.นายเอ็ด สาสีเสาร์ พ่อ
2.นางสมทิพย์ สาสีเสาร์ แม่
3.นายอภิสิทธิ์ สาสีเสาร์ ลูกชายคนโต ผมเองครับ
4.นางสาวอภิญญา สาสีเสาร์ น้องสาวคนกลาง
5.ด.ช.อภิศักดิ์ สาสีเสาร์ น้องชายคนเล็ก

ด้านสุขภาพ
สูง 170 หนัก 79

ด้านการศึกษา
ประถมศึกษาโรงเรียนบ้านหนองแวง
มัธยมศึกษาโรงเรียนโนนเทพ
ปัจจุบันนิสิตชั้นปีที่2 วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ความชื่นชอบ
1. บุคลที่ชื่นชอบ



ทักษิน ชินวัตร ชอบเสื้อแดง


ดาราหญิงที่ชื่นชอบ

เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ โดนจัยสุดๆ




วงดนตรีที่ชอบ

วง Body Slam


ทีมฟุตบอลที่ชื่นชอบ

อาเซนอล เด็กปืนใหญ่ครับ

เพลงที่ชอบ



ละครที่ชอบ


งานอดิเรก
1.ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์
2.อ่านหนังสือ
3.เดินทางท่องเที่ยว
4.ปลูกต้นไม้
5.ทำความสะอาดบ้าน

ความสามารถพิเศษ
1.เล่นเกมส์ฟุตบอลได้ดี
2.ร้องเพลง
3.เล่นกีฬาได้ทุกประเภท

นิสัยส่วนตัว
1. ร่าเริง แจ่มใส
2.พูดไม่เก่งแต่รักหมดจัย
3.เข้ากับคนอื่นได้ง่าย

อาหารที่ชอบ
แกงเขียวหวาน

ผู้หญิงในฝัน
1.น่ารักระดับหนึ่ง
2.นิสัยดี
3.เข้ากับเราได้
4.ไม่จำเป็นต้องสวยขอแค่น่ารักก็พอ
5.ย้อนดูทุกข้อที่กล่าวมา



ความใฝ่ฝัน

1.ปลัด

2.ตำรวจ

3.นายอำเภอ

4.ถ้าเป็นได้ก็คงจะดีนะ

คติประจำใจ
บุคคลที่ทุกคนเริ่มต้นที่ศูนย์เสมอ แล้วค่อยๆเดินขึ้นมาในหมายเลขหนึ่ง สอง และสามต่อๆไป

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ ที่จะเป็น ที่จะเดิน ได้นะครับ

10 อภิมหาเศรษฐี รวยที่สุดในจักรวาล

โอ๊ยๆๆ ไม่รู้จะร่ำจะรวยกันไปถึงไหน รวยขนาดชาติหน้ายังใช้เงินไม่หมด!! เปิดทำเนียบ 10 บิลเลี่ยนแนร์ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับปี 2006 ของนิตยสารฟอร์บส์ แล้วอยากจะเป็นลมล้มตึง เพราะอึ้งกับเส้นทางมหาเศรษฐีที่ยาวเป็นกิโลๆ รวยมายังไง...รวยซุปเปอร์เว่อร์แค่ไหน คงรู้กันบ้างแล้ว แต่สงสัยไหมว่า พ่อมหาเศรษฐีพันล้านพวกนี้ใช้ชีวิตส่วนตั๊ว...ส่วนตัวกันยังไง จะหรูหราฟู่ฟ่าสมฐานะ หรือเค็มจัดมัธยัสถ์จนเกลือเรียกพี่...ตัดสินกันเอาเอง!!




เห็นบ้านหลังบะเริ่มเฮิ่มของ “บิล เกทส์” เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ ต้องยอมรับว่าสมฐานะ อภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก มีทรัพย์สิน 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ...จะบ้าตาย!! คฤหาสน์ของบิลเลี่ยนแนร์ไฮเทค ราคาเฉียด 125 ล้านยูเอสดอลลาร์...เป็นบ้านโคตรแพงที่สุดหลังหนึ่งของโลก!! ตั้งอยู่บนทำเลทองเนินเขาริมทะเลสาบเลค วอชิงตัน ใกล้กับเมืองซีแอตเทิล มีเนื้อที่กว้างขวาง 66,000 ตารางฟุต เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงสระว่ายน้ำขนาด 60 ฟุต, ห้องกินข้าวใหญ่เว่อร์ กว่า 1,000 ตารางฟุต และห้องสมุดส่วนตัว อู้ฟู่ขนาดนี้ แต่ครอบครัวเดอะเกทส์ยังถ่อมตัวว่า มีกินมีใช้ธรรมดาๆ!! ไม่นับรวมถึงบ้านพักตากอากาศสุดหรูอีกหลังบนเกาะมัสติก... สงสัยจะไม่รู้ตัวว่ากำลังรวยล้นฟ้าท่วมแผ่นดิน?!
สะกดรอยตามดูการใช้ชีวิตของ “พ่อมดไอที” วัย 50 ก็เป็นจริงดังคำร่ำลือ!! เขาไม่ใช่คนขี้ตืด แต่ก็ไม่ฟุ้งเฟ้อจนคนหมั่นไส้!!บิลเลี่ยนแนร์นัมเบอร์วันของโลก ยอมเสียเงินกับเรื่องใหญ่ๆ ไม่กี่อย่าง เขาคลั่งไคล้รถพอร์ช ซื้อไว้ 2 คันคือ “พอร์ช 911 คอนเวิร์ตทิเบิล ปี 1999” ใช้ประจำวัน และ “พอร์ช 959 คูเป้ ปี 1988” คันนี้ไว้ซิ่งแก้เครียด!! นอกนั้นก็เป็นของสะสมชิวๆ ประเภทภาพเขียนศิลปินดังๆ ระดับโลก ชิ้นหนึ่งไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์!! ถ้าเป็นงานอดิเรกว่างจากธุรกิจพันล้าน มหาเศรษฐีหน้าเด็กโปรดการแต่งสวน, ซิ่งเรือยอชต์ และบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศล กับให้ทุนวิจัยวิทยาศาสตร์...ใจบุญอย่างนี้ยังถูกจับผิดว่าเล่นบทนักบุญ เพราะอยากกลบเกลื่อนความผิดฐานผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์!!


ยังไงๆ ก็ถือว่าสมถะมาก เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่นๆ ที่รวยน้อยกว่า!! ใกล้ๆ ตัวก็ต้อง คู่หูร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์ “พอล อัลเลน” บิลเลี่ยนแนร์อันดับ 6 ของโลก ที่นิยมสะสมบ้านหลายๆ หลัง มีทีมฟุตบอลและบาสเกตบอลของตัวเอง แถมยังเป็นเจ้าของยานอวกาศสเปซ ชิพ วัน เขาแก่กว่า “บิล เกทส์” 3 ปีเป็นคนยุให้เพื่อนรักดร็อปเรียนตามอย่างตัวเองมาร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์... ก่อร่างสร้างตัวถึงปัจจุบันหาเงินได้ 22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เขายังโสดสนิท ไม่มีคนช่วยใช้เงิน!! เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นดรีมเวิร์คส์ อานิเมชั่น และเป็นเจ้าของบริษัทบริหารโปรเจกต์ “วัลแคน อินส์” เป็นเจ้าของนิตยสารกีฬาชื่อดัง และมีเรือยอชต์ส่วนตัวชื่อ “อ็อกโตปุส” ขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลก!! ไลฟ์สไตล์คู่นี้ต่างกันสุดขั้ว แต่ “พอล อัลเลน” ชอบเล่นบทนักบุญเช่นกัน เน้นบริจาคเงินช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย ให้ทุนวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ยังมีมหาเศรษฐีที่สร้างตัวด้วยลำแข้งอีกหลายคน ล้วนแต่ร่ำรวยระดับท็อปเทนโลก!! ไม่ว่าจะเป็น “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซีอีโอบริษัทเบิร์คเชียร์ ฮาธาเวย์ ร่ำรวยที่สองของโลก มีทรัพย์สิน 42 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ!! ขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนชั้นเซียนของอเมริกา ไม่ว่าจะจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด!! ถ้ากางบัญชีทรัพย์สินของบริษัทเบิร์คเชียร์ฯ ซึ่งเขาถือหุ้นกว่า 38% คงถึงบางอ้อว่า เหตุใดซีอีโอวัย 75 ถึงรวยได้รวยดี!! ธุรกิจหลักๆ ของบริษัท โฟกัสที่บิสเนสประกันภัย, ผลิตลูกอม, ค้าปลีก, หนังสือพิมพ์, ธุรกิจการบิน, ขายเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน, สารานุกรม, อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน, ผลิตและจำหน่ายชุดยูนิฟอร์ม, เครื่องประดับอัญมณี รวมทั้งผลิต, นำเข้า และขายอุปกรณ์รองเท้า บริษัทมหาชนใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ยังมีพอร์ตการลงทุนใหญ่โต ฟันกำไรจากหุ้นเจ๋งๆ เป็นกอบเป็นกำ!!
เห็นรวยๆ อย่างนี้ก็เถอะ “คุณปู่วอร์เรน” ใช้ชีวิตสมถะและขี้เหนียวสุดๆ ทุกวันนี้กินเงินเดือนบริษัทตัวเองปีละแสนดอลลาร์สหรัฐฯ และยังอาศัยอยู่บ้านหลังเก่าแถบชานเมือง โอมาฮ่า ซื้อตั้งแต่ปี 1957 ในราคา 31,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ!! ส่วนรถยนต์ก็มัธยัสถ์สมกับนิสัย ขับ “ลินคอล์น ทาวน์ คาร์ซิกเนเจอร์ ซีรีย์ส์ ปี 2001” คันยาวเท่าเรือ!!


ถึงจะรวยเป็นอันดับ 4 ของโลก มีทรัพย์สิน 28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ “อิงวาร์ แคมพราด” คุณปู่ชาวสวีเดน ผู้ก่อตั้งบริษัทไอเกีย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้านใหญ่สุดของโลก ก็เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องการใช้ชีวิตติดดิน!! คุณปู่วัย 79 บุกเบิกสร้างแบรนด์ไอเกียมาด้วยตัวเอง เริ่มต้นจากขายเฟอร์นิเจอร์ จากนั้นค่อยๆ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋ๆ ราคาคุ้มค่าเงิน กลายเป็นขวัญใจคนรักบ้านทั่วโลก ปัจจุบันมีสาขาอยู่ 33 ประเทศ ไหนๆ ก็ร่ำรวยมาจากคนเบี้ยน้อยหอยน้อย “คุณปู่อิงวาร์” จึงตั้งใจว่า ชีวิตนี้จะไม่ใส่สูทเบ่งความรวย, งดอาหารเหลา ฟาดแต่เมนูพื้นๆ, ไม่นอนโรงแรมหรู และบินชั้นประหยัดสถานเดียว ส่วนรถประจำตำแหน่งก็แสนมัธยัสถ์ คุณปู่ยอดเค็มขับ “วอลโว่ 240 GL ปี 1993” บ่อยครั้งยังพึ่งบริการรถเมล์ แถมใช้บัตรผู้สูงอายุลดราคาอีก ทำอย่างนี้เพราะเกรงใจลูกค้าไอเกีย ที่ยังหาเช้ากินค่ำกันอยู่เลย!!
น่ายกย่องอีกรายเพราะรวยด้วยหยาดเหงื่อ!! ก็ต้อง “ลีกา-ชิง” มหาเศรษฐีพันล้านของฮ่องกง ขึ้นป้ายรวยที่สุดอันดับ 10 ของโลก มีสินทรัพย์ 18.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่าจะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชีย เจ้าสัวใหญ่วัย 78 ผ่านความลำเค็ญมาเยอะ ถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปี และเข้าทำงานในโรงงานพลาสติก เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่พออายุได้ 22 เขาก็มีโรงงานพลาสติกเป็นของตัวเอง!! และเพราะสู้ยิบตาไม่ยอมแพ้ความจน เขาจึงสร้างอาณาจักรธุรกิจได้สำเร็จ ปัจจุบันรั้งตำแหน่งแชร์แมนบริษัท “เฉิงกง โฮลดิ้งส์” บริหารธุรกิจหลายด้าน ทั้งธนาคาร, ก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, พลาสติก, มือถือ, ดาวเทียมโทรทัศน์, โรงงานปูนซีเมนต์, ซุปเปอร์มาร์เกต, ร้านขายยา, โรงแรม, รถไฟฟ้า, สนามบิน, โรงงานเหล็ก, ท่าเรือ, ชิปปิ้ง และผลิตไฟฟ้า แต่จะรวยติดเพดานขนาดไหน “ลีกา-ชิง” ก็ไม่ลืมกำพืดตัวเอง เขายังใส่รองเท้าถูกๆ, ใช้แว่นพลาสติกโหลๆ และพยายามตอบแทนสังคมด้วยการบริจาคเงินสร้างมหาวิทยาลัย
รวยเพราะฟ้าลิขิตส่งมาเกิดในครอบครัวมั่งคั่งก็มี อาทิ “คาร์ลอส สลิม เฮลู” มหาเศรษฐีรวยที่สุดของละตินอเมริกา วัย 66 เกิดมาในครอบครัวเศรษฐีไฟแนนซ์ของเม็กซิกัน แต่ร่ำรวยเพราะธุรกิจโทรคมนาคมที่สร้างเองกับมือในชื่อบริษัท “แซคส์ อินส์” ดำเนินธุรกิจโทรศัพท์บ้าน และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย รวมถึงบริษัทบริการทางการเงิน ธุรกิจถนัดของครอบครัว และสายการบินโลว์ คอสต์ เขากลายเป็น บิลเลี่ยนแนร์รวยที่สุดอันดับ 3 ของโลก เพราะหาเงินเก่งมีสินทรัพย์ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!!



“ลักศมี มิททาล” นักอุตสาหกรรมพันล้านของอินเดีย ติดลิสต์รวยที่สุดอันดับ 5 ของโลก ด้วยสินทรัพย์ 23.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะได้สายป่านจากธุรกิจค้าเหล็กที่พ่อวางไว้ “มิททาล สตีล คอมปานี” เป็นผู้ผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อถึงจังหวะรับช่วงต่อ บิลเลี่ยนแนร์วัยย่าง 56 ก็อาสาบุกตลาดต่างประเทศจนสำเร็จ!! ด้วยความที่เกิดมาเป็นกุมารเศรษฐี การใช้ชีวิตของเขาจึงอู้ฟู่ตามไปด้วย เมื่อปี 2003 เขาซื้อแมนชั่นหรูในเขตเคนซิงตัน พาเลซ การ์เดนส์ ประเทศอังกฤษ ด้วยราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!! และปีต่อมายังทุ่มงบ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จัดงานแต่งงานโคตรเว่อร์ให้ลูกสาว จนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่ว!!
ตัวอย่างคนรวยเพราะเกิดในตระกูลดังยังรวมถึงนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส “แบร์นาร์ด อาร์โนลต์” ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจสินค้าแบรนด์เนม LVMH (มีหลุยส์ วิตตองเป็นหัวหอก) ติดโผคนรวยที่สุดอันดับ 7 ของโลก มีสินทรัพย์ 21.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, “เจ้าชายอัลวาลีด” พระนัดดาของกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย พระชนม์ 51 ชันษา ร่ำรวยอันดับ 8 ของโลก ด้วยสินทรัพย์ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รายนี้ไม่ยุ่งการเมือง มุ่งสร้างธุรกิจอินเตอร์ในนามบริษัท “คิงดอม โฮลดิ้งส์ คอมปานี” ร่ำรวยเพราะซื้อหุ้นเก็งกำไร และกว้านซื้อกิจการโรงแรมห้าดาวทั่วโลก อีกหนึ่งคนรวยวาสนาดีก็คือ “เคนเนธ ธอมสัน” นักธุรกิจชาวแคนาดา วัย 83 ปี ผู้สืบทอดธุรกิจ “ธอมสัน คอร์เปอเรชั่น” เจ้าธุรกิจมิเดีย และบริการข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่ำรวยเป็นอันดับ 9 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 19.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
จะรวยแบบมีสาระ หรือฟุ้งเฟ้อไม่บันยะบันยัง ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว...ถ้าหามาได้อย่างสุจริต มิใช่โกงกินบ้านเมือง!!


คิดทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด

ที่มาwww.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=banprak&id=67 - 28k

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

ภาวะเศรษฐกิจโลกและผลกระทบไทย

ภาวะเศรษฐกิจโลกปี 2550 และผลกระทบต่อไทย(World Economy in 2007 and its effects on Thailand)

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก ปีพ.ศ. 2550 เศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะกระทบการส่งออกไทย ภาครัฐควรเร่งพิจารณางบประมาณ ปีพ.ศ. 2550 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนการสำรวจตลาดใหม่
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ประมาณการเศรษฐกิจโลกปี พ.ศ.2550 ไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.9 ซึ่งชะลอตัวลงจากปี พ.ศ.2549 ที่ประมาณการว่าจะขยายตัว ร้อยละ 5.1 และมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตเพียงร้อยละ 3.25 หรือต่ำกว่านั้น หากตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐชะลอตัวรุนแรงกว่าที่คาด
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี พ.ศ.2550 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.9 ลดลงจากร้อยละ 3.4 ในปีพ.ศ.2549 ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ เจพี มอร์แกน ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มถดถอย เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเคยเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวกำลังอยู่ในช่วงขาลง ส่วนอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อที่ยังน่าเป็นห่วง
ในขณะที่เศรษฐกิจสหภาพยุโรป (อียู) ขยายตัวถึงร้อยละ 3.7 ในไตรมาส 2 ปี พ.ศ.2549 ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่สูงสุด และต่อจากนี้จะเริ่มชะลอตัว โดยในปี พ.ศ.2550 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายการคลังที่เข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหาขาดดุลงบประมาณและหนี้ภาครัฐที่อยู่ในระดับสูง และการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่จะเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจช่วงปลายปี พ.ศ.2549 ต่อเนื่องไปจนถึงปี พ.ศ.2550
ส่วนญี่ปุ่นที่เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอีกประเทศหนึ่ง กำลังพิจารณาลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุดที่ผู้ปล่อยสินเชื่อจะเก็บได้จากร้อยละ 29.2 เหลือร้อยละ 15–20 ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่พอใจและถอนการลงทุนกลับ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงอาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ.2550 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1 จากเดิมที่ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.5
เศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.3 ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก ทำให้ธนาคารกลางของจีนต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เพื่อควบคุมเศรษฐกิจให้ขยายตัวช้าลง และป้องกันภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศคู่ค้า ซึ่งหมายถึงอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกจากประเทศไทยที่ลดลงด้วย การส่งออกจึงอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
ผมจึงเห็นว่า การจัดงบประมาณขาดดุลในปี พ.ศ.2550 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงสามารถทำได้ โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากแนวโน้มเงินเฟ้อปีหน้าค่อนข้างทรงตัว และหนี้สาธารณะที่ยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง นอกจากนี้ภาครัฐควรสนับสนุนการสำรวจตลาดใหม่ๆ เนื่องจากภาครัฐมีหลายช่องทางให้ทำได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าภาคเอกชน เช่น การให้สถานทูตไทยในต่างประเทศทำหน้าที่หาช่องทางตลาด การจัดทำเว็บไซต์ของสถานทูตให้เป็นแหล่งข้อมูลการค้าในต่างประเทศ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าเพียงบางประเทศ และกระจายความเสี่ยงในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว


ภาวะเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจโลกป 2550 คาดวาจะมีทิศทางเขาสูชวงชะลอตัวลง ตามการชะลอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยในไตรมาสที่ 1/2549 คาดวาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการขยายตัวรอยละ 2.4 ลดลงจากไตรมาสที่ 4/2549 ที่มีการขยายตัวรอยละ 2.5 โดยเปนผลมาจากภาวะขาลงของตลาดที่อยูอาศัย อุตสาหกรรมการผลิต คาเงินดอลลารที่คาออนตัวลงและการบริโภคซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น คาดวาจะสงผลกระทบตอเศรษฐกิจโลกไมมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจของเอเชียสวนใหญยังคงตองพึ่งพิงการสงออกสินคาไปยังสหรัฐฯโดยคาดการวาเศรษฐกิจของเอเชียในป 2550 จะมีแนวโนมขยายตัวอยูที่ระดับรอยละ 8.8 โดยมีจีนและอินเดียเปนแรงขับเคลื่อนสําคัญ ซึ่งคาดวาจะมีการขยายตัวอยูที่ระดับรอยละ 10.0 และ 8.4 ตามลําดับ และสําหรับเศรษฐกิจของอาเซียนในป 2550 คาดวาจะมีการขยายตัวอยูที่รอยละ 5.5 ตารางที่ 1 ภาวะเศรษฐกิจโลกรายการหนวย2546E2547E2548E2549E2550Eการขยายตัวของปริมาณการคาโลก% 5.3 10.6 7.4 9.2 7.0 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลก% 4.1 5.3 4.9 5.4 4.9 - สหรัฐอเมริกา% 2.5 3.9 3.2 3.3 2.2 - สหภาพยุโรป% 0.8 2.1 1.4 2.6 2.3 - ญี่ปุน% 1.8 2.3 1.7 2.7 2.9 - เอเชีย% 8.4 8.8 9.2 9.4 8.8 - จีน% 9.5 9.5 10.4 10.7 10.0 - อินเดีย% 7.4 7.3 9.2 9.2 8.4 - อาเซียน% 5.4 5.8 5.2 5.4 5.5 ที่มา: IMF, WORLD ECONOMIC OUTLOOK, April 2007 ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 2
ภาวะเศรษฐกิจและแนวโนมของประเทศไทยไตรมาสที่ 2ภาคเกษตรกรรมGDP ภาคเกษตรกรรมไตรมาสที่ 1 ยังคงมีอัตราการขยายตัวประมาณรอยละ 1.60 แมวาผลผลิตสินคาเกษตรจะมีปริมาณลดลงจากชวงไตรมาสที่ผานมา เนื่องจากเปนชวงที่ผลผลิตสวนใหญหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงทําใหมีปริมาณผลผลิตออกสูตลาดลดลงโดยเฉพาะสินคาขาว ขาวโพดเลี้ยงสัตว และมันสําปะหลัง ในขณะที่ปจจัยทางดานราคายังคงมีการขยายตัวในระดับที่สูงไตรมาสที่ 1ยังคงมีการขยายตัว จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงตามฤดูกาล แตระดับราคายังคงทรงตัวในระดับสูงโดยเฉพาะกลุมพืชอาหารประเด็นที่นาสนใจ- ภัยแลงในป 50 รุนแรงนอยกวาปที่แลว จากปริมาณน้ําฝนที่ตกลงมาในหลายพื้นที่ และสงผลกระทบตอGDP ภาคเกษตรเพียงเล็กนอยจากผลผลิตที่ไดรับความเสียหาย ขณะที่ระดับราคาโดยรวมที่ยังสูงอยู- ปริมาณสุกรลนตลาดยังคงเปนปญหาสําหรับเกษตรกรสงผลใหราคาตกต่ําตั้งแตปลายปที่ผานมา คาดวาระดับราคาจะเริ่มดีขึ้นในชวงไตรมาสที่ 4 ของป จากนโยบายชวยเหลือของภาครัฐGDP ภาคเกษตร ณ ราคาปฐาน(2531)75,27893,8971.600.98020,00040,00060,00080,000100,000120,000140,00045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q2-10-505101520GDP ภาคเกษตร (พันลานบาท)อัตราการเจริญเติบโต (รอยละ)ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติแนวโนมไตรมาสที่ 2 สําหรับ GDP ภาคเกษตรในชวงไตรมาสที่ 2 คาดวาจะมีอัตราการขยายตัวอยูในระดับที่ต่ํากวาเมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปที่ผานมา แตอยางไรก็ตามยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอยูคือประมาณรอยละ 0.98 หรือมีมูลคาประมาณ75,278 พันลานบาท ซึ่งเปนผลมาจากระดับราคาสินคาเกษตรที่คาดวาจะเริ่มชะลอตัวลงจากความตองการที่ลดลงของตลาดภายในประเทศและตลาดโลกแตยังคงทรงตัวในระดับสูงขณะที่ปริมาณผลผลิตสินคาเกษตรลดลงตามฤดูกาล และอัตราการขยายตัวไมมีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากชวงเดียวกันของปที่ผานมาระดับราคามีแนวโนมขยายตัวลดลงแตยังคงทรงตัวในระดับสูง ขณะที่การขยายตัวของปริมาณผลผลิตไมมีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากชวงเดียวกันของปที่ผานมาศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 3
ภาคอุตสาหกรรมGDP ภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1จะสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นรอยละ 4.8 เชนเดียวกันคาดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เฉลี่ยในไตรมาสแรกคาดวาจะอยูที่ระดับ180.8 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นรอยละ 8.23 เมื่อเทียบกับในชวงไตรมาสแรกของปที่ผานมา และในสวนของการใชกําลังการผลิต (Capacity Utilization) ภาคอุตสาหกรรมเฉลี่ยในชไตรมาสที่ 1 ยังสามารถขยายตัวในระดับที่ดี สืบเนื่องมาจากคําสั่งซื้อสินคาภาคอุตสาหกรรมจากตางประเทศยังคงมีเขามาอยางตอเนื่องวงไตรมาสแรกคาดวาจะอยูที่ระดับ 75.0 อยูในระดับที่ใกลเคียงกับการใชกําลังการผลิตในไตรมาสแรกของปที่ผานมาที่อยูที่ระดับ 75.2 ปจจัยเกื้อหนุน- ยอดคําสั่งซื้อตางประเทศยังอยูในระดับที่ดี สงผลใหอุตสาหกรรมไทยซึ่งพึ่งพอการสงออกในระดับสูงสามารถขยายตัวไดอยางตอเนื่องปจจัยบั่นทอน- สถานการณความไมแนนอนภายในประเทศสงผลใหประชาชนชะลอการใชจายลง- ตนทุนภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอยางยิ่งราคาน้ํามันมีความผันผวนในระดับสูง โดยเฉพาะอยางยิ่งระดับราคาน้ํามันในไตรมาสที่ 1 มีทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่องGDP ภาคอุตสาหกรรม ณ ราคาปฐาน(2531)405,768418,0254.84.60100,000200,000300,000400,000500,00045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q202468101214GDP ภาคอุตสาหกรรม (พันลานบาท)อัตราการเจริญเติบโต (รอยละ)MPI และ Capacity Utilization8010012014016018020045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q250Q15060708090MPICapacity Utilizationแนวโนมไตรมาสที่ 2 สําหรับ GDP ภาคอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 คาดวาจะชะลอตัวลงตอเนื่องจากไตรมาสที่ 1 โดยคาดวาจะขยายตัวประมาณรอยละ 4.2-4.7 สืบเนื่องจากความตองการสินคาภายในประเทศที่ชะลอตัวลงเนื่องจากสถานการณทางการเมืองภายในประเทศยังมีความไมแนนอนในระดับสูง นอกจากนี้ระดับราคาน้ํามันซึ่งเปนตนทุนสําคัญอยางหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมยังคงมีความไมแนนอนในระดับสูง โดยระดับราคาน้ํามันภายในประเทศในไตรมาสที่ 1 มีทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง รวมถึงสถานการณคาเงินบาทที่แข็งคาขึ้นคอนขางมากเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาคอาจสงผลกระทบตอการสงออกของภาคอุตสาหกรรมของไทย จึงทําใหภาคอุตสาหกรรมไทยมีแนวโนมชะลอตัวลงอยางตอเนื่องในไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 2 ภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงตอเนื่องจากไตรมาสที่ 1 เนื่องมาจากความตองการสินคาภายในประเทศชะลอตัวลง และระดับราคาน้ํามันยังคงทรงตัวอยูในระดับสูงศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 4
MPI Capacity Utilization อุตสาหกรรมที่มีแนวโนมดี และอุตสาหกรรมที่ตองเฝาระวังในไตรมาสที่ 1อุตสาหกรรม%yoy % yoy ในการพิจารณาจะพิจารณาจากอุตสาหกรรมที่มีทิศทางการปรับตัวของคาดัชนีในดานตาง ๆ ในระดับที่คอนขางดีและแยนั้นในที่นี้จะพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การใชกําลังการผลิต โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโนมดีในชวงไตรมาสที่ 1ประกอบดวย อุตสาหกรรมเครื่องหนังอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส อุตสาหกรรมสูบ อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมรองเทา โดยอาจกลาวไดวาในไตรมาสที่ 1 อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกสยังคงเปนกลุมที่สรางความเติบโตใหแกภาคอุตสาหกรรมมากที่สุดเนื่องจากความตองการสินคาจากตางประเทศยังคงมีเขามาอยางตอเนื่องอุตสาหกรรมเดน39.68 18.7 อุตสาหกรรมเครื่องหนังอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส25.31 2.6 25.97 10.0 อุตสาหกรรมยาสูบ11.68 9.5 อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม8.15 0.6 อุตสาหกรรมรองเทาอุตสาหกรรมที่ตองเฝาระวังอุตสาหกรรมเฟอรนิเจอร-25.34 -16.6 ในขณะที่อุตสาหกรรมที่ตองเฝาระวังในไตรมาสที่ 1ประกอบดวยอุตสาหกรรมเฟอรนิเจอร อุตสาหกรรมยานยนตและสวนประกอบ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะอยางอุตสาหกรรมสิ่งทอซึ่งถือเปนอุตสาหกรรมที่มีน้ําหนักมากที่สุดในการคํานวณคา MPI ที่ตองเผชิญการแขงขันจากสินคาราคาถูกจากประเทศจีน และอุตสาหกรรมยานยนตและสวนประกอบที่แมการสงออกจะยังคงทําไดอยางตอเนื่องแตการบริโภคภายในประเทศปรับตัวลดลงอยางชัดเจนอุตสาหกรรมยานยนตและสวนประกอบ-4.50 -3.0 -4.37 0.0 อุตสาหกรรมสิ่งทอที่มา : จากการคํานวณอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสยังคงเปนอุตสาหกรรมหลักในการสรางความเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากสินคาในกลุมนี้ยังคงสงออกไดในระดับที่ดี ในขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอเผชิญการแขงขันที่รุนแรงจากสินคาจากประเทศจีน และอุตสาหกรรมยานยนตปริมาณการบริโภคภายในประเทศลดลงคอนขางมากศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 5
ภาคการทองเที่ยวไตรมาสที่ 1ยังคงมีการขยายตัว จากนักทองเที่ยวชาวยุโรป และตะวันออกกลาง สวนรายไดเพิ่มขึ้นเล็กนอยจากจํานวนนักทองเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจํานวนนักทองเที่ยวตางชาติไตรมาสที่ 1 คาดวามีจํานวน 3.8 ลานคน หรือขยายตัวรอยละ 4.01 เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันกับปกอน แมวาจะเกิดเหตุระเบิดในชวงปใหมปนี้รวมถึงความไมสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใตก็ตาม แตก็ยังคงมีนักทองเที่ยวเขามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นบาง โดยกลุมนักทองเที่ยวที่ลดลงคือนักทองเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย สวนนักทองเที่ยวยุโรป และอเมริกานั้นไมไดรับผลกระทบเนื่องจากมีการวางแผนจะมาเมืองไทยอยูแลว สวนรายไดจากการทองเที่ยวคาดวาประมาณ 1.43 แสนลานบาท เพิ่มขึ้นรอยละ 12.11เทียบกับชวงเดียวกันกับปกอนประเด็นที่นาสนใจ- เหตุการณระเบิดสงผลกระทบตอจํานวนนักทองเที่ยวโดยรวมนอย กลุมที่ไดรับผลกระทบคือ ญี่ปุนมาเลเซีย สิงคโปร- รายไดจากการทองเที่ยวชะลอตัว จากภาวะเศรษฐกิจโลก และคาเงินบาทที่แข็งคาขึ้นจํานวนนักทองเที่ยวและรายได300.787376.7331,441.361150.79010020030040045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q20500100015002000จํานวน: พันคนรายได: รอยลานบาทที่มา : การทองเที่ยวแหงประเทศไทย และการคํานวณแนวโนมไตรมาสที่ 2 คาดวา จํานวนนักทองเที่ยวมีประมาณ 3.1 ลานคนหรือขยายตัวรอยละ 6.79 เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันกับปกอนแตต่ํากวาการขยายตัวของปกอน สวนรายไดคาดวาประมาณ1.22 แสนลานบาท เพิ่มขึ้นรอยละ 11.19 เทียบกับชวงเดียวกันกับปกอน อาจเปนเพราะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไมมีปจจัยใดมากระตุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จึงทําใหคนมีความระมัดระวังในการใชจายมากขึ้น ซึ่งเปนผลทําใหภาคการทองเที่ยวของไทยตองเรงประชาสัมพันธ รวมถึงควรมีการจัดโปรโมชั่นตางๆเพื่อกระตุนใหนักทองเที่ยวตางชาติมีความสนใจมากขึ้น เพราะการทองเที่ยวเปนแหลงรายไดตางชาติที่สําคัญของไทยอีกชองทางหนึ่งเดียวกันของปที่ผานมาจํานวนนักทองเที่ยวตางชาติยังคงมีการขยายตัวแตอยูในระดับต่ําเชนเดียวกับรายไดจากการทองเที่ยวที่มีการขยายตัวในระดับต่ําเชนกันศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 6
ดานการบริโภคการบริโภคภายในประเทศ ไตรมาสที่ 1 ป 2550 มีมูลคา 548 พันลานบาท ลดลงจากชวงไตรมาสที่ผานมาเล็กนอย แตยังมีอัตราการขยายตัวประมาณรอยละ 2.47 ซึ่งมีแนวโนมลดลงอยางตอเนื่อง โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนมีการขยายตัวประมาณรอยละ -1.5 การใชกระแสไฟฟาขยายตัวประมาณรอยละ -2.6 ปริมาณการจําหนายรถยนตนั่งขยายตัวประมาณรอยละ -24.3รถจักรยานยนตขยายตัวประมาณรอยละ -22.5 นอกจากนั้นตัวชี้วัดที่ชี้ใหเห็นวาการบริโภคมีแนวโนมลดลงคือภาษีมูลคาเพิ่มที่ยังคงมีการขยายตัวแตในอัตราที่ลดลงคือประมาณรอยละ 4.8 ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนสวนใหญยังมีความกังวลใจกับสถานการณตางๆภายในประเทศ ไมวาจะเปนระดับราคาน้ํามันที่ยังคงอยูในระดับสูง สถานการณทางการเมือง เปนตนไตรมาสที่ 1 ยังคงมีการขยายตัว แตมีแนวโนมลดลง เนื่องจากประชาชนสวนใหญยังมีความกังวลใจกับสถานการณตางๆภายในประเทศการบริโภค0200,000400,000600,00045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q202468การบริโภค (ลานบาท)อัตราการเจริญเติบโต (รอยละ)ที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทยแนวโนมไตรมาสที่ 2 คาดวาการบริโภคภายในประเทศ ไตรมาสที่ 2 จะมีอัตราการขยายตัวอยูในระดับที่ต่ํากวาเมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปที่ผานมาคือประมาณรอยละ 2.1 ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของผูบริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจทุกรายการมีสัญญาณปรับตัวลดลงในชวง 2 เดือนแรกของป2550 สะทอนใหเห็นวาความเชื่อมั่นของผูบริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจกําลังปรับตัวสูทิศทางขาลงอีกครั้ง หากไมมีปจจัยบวกมาสรางความเชื่อมั่นใหเกิดขึ้นอยางรวดเร็วหรือปจจัยลบเขามาเพิ่มเติมอยางตอเนื่องการบริโภคภายในประเทศยังคงมีแนวโนมขยายตัวลดลง เปนผลจากประชาชนขาดความมั่นใจในสถานการณเศรษฐกิจภายในประเทศ และรายไดที่จะไดรับในอนาคต จากปญหาตางๆศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 7
ดานการลงทุนการลงทุนภายในประเทศ ไตรมาสที่ 1 ป 2550 มีอัตราการขยายตัวประมาณรอยละ 1.1 ซึ่งมีแนวโนมลดลงอยางตอเนื่อง โดยมีทิศทางสอดคลองกับปริมาณจําหนายปูนซีมเมนตที่มีอัตราการเจริญเติบโตประมาณรอยละ -6.4 และปริมาณการจําหนายรถยนตเชิงพาณิชยในประเทศที่มีทิศทางการขยายตัวลดลงเชนกันคือประมาณรอยละ -28.5 ซึ่งเปนผลมาจากขาดความเชื่อมั่นสภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปจจุบันไตรมาสที่ 1 มีการขยายตัวลดลงตอเนื่องจากไตรมาสที่ผานมา เปนผลมาจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นสภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปจจุบันที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทยการลงทุน0100,000200,000300,00045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q2-50510152025การลงทุน (ลานบาท)อัตราการเจริญเติบโต (รอยละ)แนวโนมไตรมาสที่ 2 คาดวาการลงทุนภายในประเทศ ไตรมาสที่ 2 จะมีอัตราการขยายตัวทรงตัวอยูในระดับที่ลดลง และมีระดับลดลงจากชวงไตรมาสเดียวกันของปที่ผานมาคือประมาณรอยละ -0.5 เนื่องจากแนวโนมอัตราการใชกําลังการผลิตโดยรวมและดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในชวงไตรมาสที่ 2 ที่ยังคงมีอัตราการขยายตัวในระดับที่ต่ํา ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับสถานการณตางๆภายในประเทศรวมถึงสถานการณของตลาดโลกที่สงผลกระทบ เชน ระดับราคาน้ํามันที่ยังคงทรงตัวในระดับที่สูงการลงทุนภายในประเทศมีแนวโนมขยายตัวลดลงอีกซักระยะ เปนผลจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในสถานการณเศรษฐกิจภายในประเทศศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 8
ภาคการคลังในชวง 6 เดือนแรกของปงบประมาณ รัฐบาลมีการใชจายมากกวารายไดที่จัดเก็บได ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากงบประมาณผูกพันในป 2549 ประกอบกับในชวงไตรมาสที่ 2 ของปงบประมาณ รัฐบาลเริ่มที่จะมีการเรงเบิกจายมากขึ้น เพื่อกระตุนภาวะเศรษฐกิจ1. รายไดรัฐบาล (Government Revenue)1. รายไดนําสงคลัง ในชวง 6 เดือนแรกของปงบประมาณ 2550 รัฐบาลมีรายไดนําสงคลังขยายตัวรอยละ6.8 คิดเปนจํานวนเงินทั้งสิ้น 597,075 ลานบาท โดยรายไดที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับชวงเดียวกันปกอน ไดแก ภาษีเบียร ภาษียาสูบ ภาษีเงินไดปโตรเลียม ภาษีสุรา ภาษีน้ํามันภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา นอกจากนั้นการนําสงรายไดของรัฐวิสาหกิจในชวง 6 เดือนแรกของปงบประมาณ 2550 ก็สูงกวาชวงเดียวกันปที่ผานมามาก2. รายจายรัฐบาล การเบิกจายของรัฐบาลในชวง6 เดือนแรกของปงบประมาณ2550 ขยายตัวรอยละ2.6 คิดเปนจํานวนเงินทั้งสิ้น 737,447 ลานบาท โดยเพิ่มขึ้นจากการเบิกจายของรัฐบาลในชวง 5 เดือนแรกจํานวน 139,900 ลานบาทหรือคิดเปนรอยละ23.4 3. ดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสด จากรายไดนําสงคลังและการเบิกจายเงินงบประมาณของรัฐบาลขางตนสงผลใหดุลเงินงบประมาณขาดดุลทั้งสิ้น 140,372 ลานบาทและเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจํานวน49,061 ลานบาท ซึ่งสวนหนึ่งเปนผลจากการจายเงินเหลื่อมจายจากปงบประมาณ 2549 และการถอนเงินฝากนอกงบประมาณเพื่อโอนใหทองถิ่นของกรมสงเสริมการปกครองทองถิ่น ทําใหดุลการคลัง(ดุลเงินสด) ขาดดุล189,434 ลานบาท โดยรัฐบาลชดเชยการขาดดุลดวยการใชเงินคงคลังและการออกพันธบัตรและตั๋วสัญญาใชเงิน6 เดือนแรกเปลี่ยนแปลงปงบประมาณ 2550 ปงบประมาณ 2550 จํานวนรอยละ1. รายไดนําสงคลัง597,075.07 559,248.09 37,826.98 6.8 2. รายจาย737,447.30 718,466.36 18,980.94 2.6 2.1 จากงบประมาณปปจจุบัน664,082.14 632,577.36 31,504.78 5.0 2.2 จากงบประมาณปกอน73,365.16 85,889.00 -12,523.84 -14.6 3. ดุลเงินงบประมาณ-140,372.23 -159,218.27 18,846.04 -11.8 4. ดุลเงินนอกงบประมาณ-49,061.47 84,524.04 -133,585.51 -158.0 5. ดุลเงินสดกอนกู(3+4) -189,433.70 -74,694.23 -114,739.47 153.6 6. กูเพื่อชดเชยการขาดดุล105,260.00 - - - 7. ดุลเงินสดหลังกู (5+6)-84,173.70 -74,694.23 -9,479.47 12.7 ที่มา:สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมบัญชีกลางศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 9
ภาคการคาระหวางประเทศ-10,000.000.0010,000.0020,000.0030,000.0040,000.0045Q145Q346Q146Q347Q147Q348Q148Q349Q149Q350Q149Q350Q1Trade balanceExports (f.o.b.)Imports (c.i.f.)ไตรมาสที่ 1 การสงออกขยายตัวในระดับทึ่ดี ในขณะที่การนําเขาในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวในระดับต่ํา สงผลใหคาดวาดุลการคาในไตรมาสที่ 1 จะสามารถเกินดุลไดอยางตอเนื่องการสงออกโดยรวมของประเทศในชวงไตรมาสที่ 1 ป 2550 คาดวาจะมีมูลคาทั้งสิ้นประมาณ 33,408 ลานเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นรอยละ 13.02 เมื่อเทียบกับในชวงเดียวกันของปที่ผานมาการนําเขาในไตรมาสที่ 1 ป 2550 คาดวาจะมีมูลคาทั้งสิ้นประมาณ 30,731 ลานเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นรอยละ 2.55 เมื่อเทียบกับในชวงเดียวกันของปที่ผานมา สืบเนื่องมาจากการชะลอการนําเขาสินคาในไตรมาสแรกตามวัฎจักรธุรกิจ รวมถึงความไมแนนอนในภาวะเศรษฐกิจของประเทศประชาชนชะลอการจับจายใชสอยผูประกอบการกิจการบางประเภทมีการชะลอการผลิตลงปจจัยเกือหนุน- สาเหตุที่การสงออกในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวในระดับที่ดีเนื่องจากความตองการสินคาจากจางประเทศยังคงมีเขามาอยางตอเนื่องปจจัยบั่นทอน- ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาชะลอตัวจากมูลคาการสงออกและการนําเขาขางตนสงผลใหดุลการคาในไตรมาสที่ 1 ป 2550 คาดวาจะเกินดุลการคาประมาณ 2,677 ลาน- การแข็งคาของคาเงินบาทเมี่อเทียบกับเงินตราสกุลอื่นในภูมิภาคอาจเปนอุปสรรคตอการสงออกบาง-ระดับราคาน้ํามันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแนวโนมไตรมาสที่ 2 การสงออกในไตรมาสที่ 2 ป คาดวามูลคาการสงออกในไตรมาสที่ 2 จะชะลอตัวลงจากชวงไตรมาสที่ 1 โดยคาดวาการสงออกในไตรมาสที่ 2 จะมึมูลคาทั้งสิ้นประมาณ33,140 ลานเหรียญสหรัฐ ขยายตัวอยูที่ระดับประมาณรอยละ 6.91เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปที่ผานมาการนําเขาในไตรมาสที่ 1 ป 2550 คาดวาจะมีมูลคาทั้งสิ้นประมาณ 36,729 ลานเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นรอยละ12.58 เมื่อเทียบกับในชวงเดียวกันของปที่ผานมา สืบเนื่องมาจากฐานการนําเขาในไตรมาสแรกที่อยูในระดับต่ํา และการนําเขาสินคาประเภทวัตถุดิบและสินคาทุนเพื่อเตรียมรองรับการผลิตในชวงครึ่งหลังของปสงผลใหมีการขยายตัวของการนําเขาในระดับสูงดุลการคาในไตรมาสที่ 2 ป 2550 คาดวาจะขาดดุลการคาประมาณ 3,589 ลานเหรียญสหรัฐศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 10
ภาคการเงินอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโนมของการปรับตัวลดลงจากชวงปลายป 2549 โดยอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลไตรมาสที่ 1 ของป 2550 อยูที่ รอยละ 4.69 ลดลงจากไตรมาสที่ 4 ป2549 ที่อยูที่รอยละ 4.89 ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเงินเฟอในประเทศไทยมีแนวโนมของการลดลงอยางตอเนื่อง ประกอบกับธนาคารแหงประเทศไทยตองการกระตุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะทางดานการลงทุน และการบริโภคภายในประเทศ สวนอัตราดอกเบี้ยชนิดอื่นๆ ยังคงมีเนวโนมของการปรับตัวลดลงเชนเกียวกันกับอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของภาครัฐ0123456JanAprJulOctJanAprJulOctJan1 วัน14 วันไตรมาสที่ 1 อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงเกือบรอยละ 0.5 ซึ่งถือเปนการสงสัญญาณชัดของธนาคารแหงประเทศไทยที่ตองการกระตุนเศรษฐกิจผานนโยบายการเงินที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทยแนวโนมอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 2 ป 2550พบวา มีแนวโนมของการปรับลดลงอยางตอเนื่องโดยคาดวาในไตรมาสที่ 2 ธนาคารแหงประเทศจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย R/P 1 วัน ลงอีกรอยละ 0.5-1.00 (โดยรวมที่ไดการปรับลดไปแลวรอยละ 0.5 ในเดือนเมษายน) เพื่อที่จะกระตุนใหเกิดการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชน สวนอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชยคาดวาในไตรมาสที่ 2 อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกูลงรอยละ0.50-0.75 ทั้งนี้เนื่องจากธนาคารพาณิชยมีสภาพคลองสวนเกินไตรมาสที่ 2คาดวา อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลจะปรับตัวลดลงอีกรอยละ0.75-1.00 และคาดวาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชยปรับตัวลดลงอีกรอยละ 0.50-0.75ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 11
ปริมาณเงินฝากและเงินใหสินเชื่อของธนาคารพาณิชยไทยเงินฝาก : ปริมาณเงินฝากของธนาคารพาณิชยในชวงเดือน มกราคม และกุมภาพันธ ยังคงมีอัตราการขยายตัวไดอยางตอเนื่อง ถึงแมจะมีแนวโนมของการชะลอตัวลงก็ตาม แตในเดือนกุมภาพันธนั้นปริมาณเงินฝากของธนาคารพาณิชยมีแนวโนมของการขยายตัวในอัตราเรง ทั้งนี้เปนผลมาจากการที่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมีการฝากเงินเนื่องจากกระทรวงการคลังเบิกจายเงินงบประมาณที่คางจายใหกับองคการปกครองสวนทองถิ่น (อปท.) และภาคครัวเรือนที่มีการ Lock in อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากการคาดการณวาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงตอไปอัตราการขยายตัวของสินเชื่อและเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชยไทย (หนวย: รอยละ) 2.191.693.944.7051015ม.ค. 2548มี.ค. 2548พ.ค.2548ก.ค.2548ก.ย. 2548พ.ย. 2548ม.ค. 2549มี.ค. 2549พ.ค.2549ก.ค.2549ก.ย.2549พ.ย. 2549ม.ค. 2550สินเชื่อเงินฝากที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทยสินเชื่อ : ปริมาณสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชยมีแนวโนมของการรชะลอตัวตั้งแตชวงครึ่งปหลังของป 2549 เปนตนมาทั้งนี้เนื่องจากสถานการณทางดานเศรษฐกิจ การเมืองของประเทศไทยมีความไมแนนอนจากสถานการณตางๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ ทําใหความตองการที่จะลงทุนของภาคเอกชนหรือความระมัดระวังในการปลอยสินเชื่อของธนาคารพาณิชยยังคงมีอยางตอเนื่อง สงผลใหอัตราการขยายตัวของเงินใหสินเชื่อขยายตัวเพียงรอยละ 1.69 ในเดือนกุมภาพันธ ชะลอตัวลงจากเดือนมกราคมที่ขยายตัวรอยละ 2.19 สําหรับในชวงไตรมาส 2 ของป 2550 ของปนี้คาดวาอัตราการขยายตัวของเงินฝากและสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชยยังคงชะลอตัวอยางตอเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดวาอัตราการขยายตัวของเงินฝากจะยังคงทรงตัวอยูในระดับรอยละ 3-4 ตอเนื่อง สวนทางดานของสินเชื่อคาดวาจะยังคงทรงตัวอยูในระดับต่ําอยางตอเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งรอความชัดเจนในดานของแนวนโยบายและสถานการณทางการเมือง2549 2549 ม.ค. ก.พ. สินเชื่อ5,895,015 5,837,101 5,849,710 เงินฝาก 6,620,609 6,749,525 6,823,041 ไตรมาสที่ 1 ปริมาณเงินฝากและปริมาณสินเชื่อยังคมมีอัตราการขยายตัวไดอยางตอเนื่องแตมีสัญญาณของการชะลอตัวลง ทั้งนี้เปนผลเนื่องจากสถานการณความไมเชื่อมั่นไตรมาสที่ 2 ปริมาณการใหสินเชื่อของธนาคารพาณิชยยังคงมีการชะลออยางตอเนื่องทั้งนี้เนื่องจากธนาคารพาณิชยยังไมแนใจในสถานการณทางดานเศรษฐกิจของประเทศไทย แตอยางไรก็ตามการออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจโดยใหแบงครัฐเปนผูนําการปลอยสินเชื่อมากขึ้น ก็อาจสงผลใหสินเชื่อขยายตัวไดในระดับหนึ่งศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 12
อัตราแลกเปลี่ยนคาเงินบาทตอดอลลารสหรัฐฯไตรมาสที่ 1 ยังคงแข็งคาขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสกอนหนา เนื่องจากมีการเก็งกําไรคาเงินบาท ผนวกกับความกังวลของผูประกอบการสงออกทําใหมีการแลกเงินบาทเพิ่มมากขึ้น จึงสงผลใหคาเงินบาทยิ่งแข็งคามากกวาที่ควรจะเปน สวนคาเงินในภูมิภาคอื่นๆแถบเอเชียดวยกันยังคงทรงตัวประเด็นที่นาสนใจไตรมาสที่ 1ยังคงแข็งคาเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ป 49 จากการเก็งกําไรคาเงินบาทและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย- การกันสํารองรอยละ 30 ไมสามารถยับยั้งการแข็งคาของเงินบาทได- คาเงินบาทยังคงแข็งคาอยางตอเนื่อง เนื่องจากยังมีการไหลเขาสุทธิของเงินตราตางประเทศ และการออนคาลงของคาเงินดอลลารอยางตอเนื่องอัตราแลกเปลี่ยนไตรมาส1/49ไตรมาส1/50*บาท/$ 36.23 35.38 j% -4.26 -2.36 ยูโร/$ 0.77 0.75 j% -2.22 -1.61 เยน/$ 117.25 117.83 j% 1.51 0.49 หยวน/$ 7.76 7.78 j% -1.78 0.18 สิงคโปร/$ 1.54 1.51 j% -2.74 -1.62 ที่มา: ธนาคารแหงประเทศไทยแนวโนมไตรมาสที่ 2คาดวาในระยะสั้น(3เดือน) คาเงินบาท ยังคงแข็งคาอยูในระดับ 34.7-35.2 บาทตอดอลลารสหรัฐฯ สวนระยะยาว(1ป) จะอยูที่ระดับ 36.41 บาทตอดอลลารสหรัฐฯ สําหรับกรณีที่เหตุการณตางๆไมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แตหากมีการเก็งกําไรจากกองทุนระหวางประเทศ ยอมทําใหคาเงินบาทปรับตัวแข็งคาขึ้นกวาที่คาดการณไวโดยอาจจะแข็งคาขึ้นถึง 34.5 บาทตอดอลลารสหรัฐฯศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 13
ราคาน้ํามันราคาน้ํามันในตลาดโลกในชวงไตรมาสที่ 2 ของป 2550คาดวายังคงปรับตัวตามสถานการณของเหตุการณ เนื่องจากมีการคาดการณอุณหภูมิของสหรัฐอเมริกาที่จะสูงขึ้น รวมถึงการคาดการณวาปริมาณความตองการน้ํามันเพื่อความอบอุนจะลดต่ําลงดวยเชนกัน นอกจากนี้ปญหาความตึงเครียดระหวางอิหรานกับคณะมนตรีความมั่นคงแหงสหประชาชาติเรื่องการทดลองนิวเคลียรของประเทศอิหรานก็ยังคงตองติดตามอยู ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ คาดวาราคาน้ํามันดิบดูไบ ในไตรมาสที่ 2 ของป 2550 จะอยูในระดับ56.00 ดอลลารสหรัฐฯ ตอบารเรล โดยปรับตัวใกลเคียงกับระดับราคาน้ํามันดิบดูไบในไตรมาสที่ 1 ป 2550 ที่อยูที่ 55.10 ดอลลารสหรัฐฯ ตอบารเรล และจากการที่คาเงินบาทของไทยมีการแข็งคาขึ้น สงผลใหราคาน้ํามันเบนซินและราคาน้ํามันดีเซลขายปลีกในประเทศในไตรมาสที่ 2 ของป 2550 จะยังคงทรงตัวในระดับสูงอยางตอเนื่อง อาจมีการปรับราคาขึ้นไดในไตรมาสนี้ และอยูใกลเคียงกับราคาน้ํามันในชวงไตรมาสที่ 1 ของป 2550 โดยน้ํามันเบนซินจะมีราคาอยูในระดับ 26-29บาทตอลิตร ในขณะที่น้ํามันดีเซลจะมีราคาอยูในระดับ 23-26 บาทตอลิตรราคาน้ํามันในตลาดโลกในชวงไตรมาสที่ 2 ของป 2550 คาดวาจะปรับตัวสูงขึ้น สงผลใหราคาน้ํามันเบนซินและราคาน้ํามันดีเซลขายปลีกในประเทศในไตรมาสที่ 2 ของป 2550 จะยังคงทรงตัวในระดับสูงอยางตอเนื่อง อาจมีการปรับราคาขึ้นไดในไตรมาสนี้56.055.157.866.664.757.852.955.342.140.80.020.040.060.080.0Q1.05 Q2.05 Q3.05 Q4.05 Q1.06 Q2.06 Q3.06 Q4.06 Q1.07 Q2.07Dubaiที่มา: จากการคํานวณศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 14
ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจตาง ๆในการพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นจะทําการพิจารณาคาดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจหลักที่มีการดําเนินการจัดทําโดยหนวยงานตาง ๆไดแก ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ดําเนินการจัดทําโดยธนาคารแหงประเทศไทยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ดําเนินการจัดทําโดยสภาอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคการคาและบริการ(TSSI) ดําเนินการจัดทําโดยสํานักงานสงเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม และดัชนีความเชื่อมั่นผูบริโภค (CCI) ดําเนินการจัดทําโดยศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการคาไทยไตรมาสที่ 1คาดัชนีความเชื่อมั่นในทุกสาขาธุรกิจปรับตัวในทิศทางที่ลดลง เนื่องจากมีปจจัยลบเขามากระทบตอเศรษฐกิจของประเทศคอนขางมาก โดยเฉพาะอยางยิ่งสถานการณความขัดแยงทางการเมืองของกลุมการเมืองตาง ๆและสถานการณราคาน้ํามันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่องในไตรมาสที่ 1 ปจจัยเกื้อหนุน- การสงออกของประเทศที่ยังคงขยายตัวไดในระดับที่ดีจะสงผลดีตอภาคธุรกิจที่พึ่งพาการสงออกในระดับสูงโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่จะสงผลใหความเชื่อมั่นของผูประกอบการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นไดปจจัยบั่นทอน- ปญหาความไมชัดเจนทางการเมืองสงผลกระทบโดยตรงตอความเชื่อมั่นของทุกภาคธุรกิจ สงผลใหผูประกอบการชะลอการลงทุน และประชาชนชะลอการบริโภคในชวงนี้708090100110120TSSI*2CCIBSI*2TISI- คาเงินบาทที่มีแนวโนมแข็งคาขึ้นสงผลกระทบโดยตรงตการสงออกของประเทศที่จะทําไดยากขึ้น- ระดับราคาน้ํามันที่มีแนวโนมปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่องสงผลกระทบโดยตรงตอตนทุนการประกอบการของผูประกอบการ และสงผลกระทบตอผูบริโภคผานอํานาจซื้อที่ลดลงคาดวาคาดัชนีความเชื่อมั่นในชวงไตรมาสที่ 2 นาจะยังคงอยูในระดับที่ทรงตัวและคาดัชนีความเชื่อมั่นนาจะยังคงเคลื่อนไหวอยูในระดับที่ต่ํากวาคาฐานในทุกภาคธุรกิจ และคาดวาดัชนีความเชื่อมั่นนาจะมาอยูในระดับที่ใกลเคียงกับคาฐานหรือมีความเชื่อมั่นในระดับปกติไดในชวงไตรมาสที่ 3 ตอเนื่องไตรมาสที่4 ของป2550 ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 15
เศรษฐกิจภาพรวมผลิตภัณฑมวลรวมภายในประเทศ ไตรมาสที่ 1 ป2550 มีมูลคา 1,056 พันลานบาท ลดลงจากชวงไตรมาสที่ผานมา ซึ่งเปนไปตามฤดูกาล และมีอัตราการขยายตัวประมาณรอยละ 3.8 และมีแนวโนมลดลงอยางตอเนื่อง โดยปจจัยที่ทําใหภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวลดลงคือ ภาคการใชจายและภาคการผลิตภายในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวที่ลดลงจากภาวะราคาน้ํามันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับสถานการณการเมืองภายในประเทศที่มีผลตอความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากตางประเทศ และปญหาความขัดแยงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใตที่ยังไมสามารถแกไขไดไตรมาสที่ 1 ยังคงมีการขยายตัว แตมีแนวโนมลดลงอยางตอเนื่อง เปนผลจากการขยายตัวที่ลดลงของทั้งภาคการผลิตและภาคการใชจาย3.383.770200,000400,000600,000800,0001,000,0001,200,00045Q145Q446Q347Q248Q148Q449Q350Q20.002.004.006.008.0010.00GDP (ลานบาท)อัตราการเจริญเติบโต (รอยละ)แนวโนมไตรมาสที่ 2 ป 2550 คาดวาผลิตภัณฑมวลรวมภายในประเทศ ไตรมาสที่2 จะมีอัตราการขยายตัวอยูในระดับที่ต่ํากวาเมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปที่ผานมาคือประมาณรอยละ 3.4 ซึ่งเปนผลมาจากการขยายตัวของภาคการผลิตทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตรมีระดับที่ลดลง ประกอบกับภาคการใชจายโดยเฉพาะภาคเอกชนมีแนวโนมลดลงจากภาวะราคาน้ํามันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ สถานการณการเมืองภายในประเทศ และปญหาความขัดแยงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใตที่ยังไมสามารถแกไขได ซึ่งจะสงผลตอความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากตางประเทศไตรมาสที่ 2 มีแนวโนมขยายตัวลดลง เปนผลจากภาคการผลิตและภาคการใชจายมีการขยายตัวลดลง ขณะปญหาสถานการณการเมืองและราคาน้ํามัน เปนปจจัยลบตอการขยายตัวศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 16
สรุปสถานการณเศรษฐกิจประเทศไทย ไตรมาสที่ 1และประมาณการแนวโนมไตรมาสที่ 2 ป 2550 ที่มา: สํานักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติกระทรวงพาณิชยและธนาคารแหงประเทศไทยF คือคาประมาณป2550 โดยศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยรายการหนวย2549Q4 2550Q1(F) 2552Q2(F) เศรษฐกิจภายในประเทศGDP (ราคาปปจจุบัน)2,044,013 2,014,933 1,967,971 ลานบาทGDP (ราคาป 2531) 1,063,280 1,056,243 1,007,729 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 4.2 3.8 3.4 % 3.3 2.5 2.1 อัตราเงินเฟอ% 1.3 1.5 1.4 อัตราการวางงานอัตราการขยายตัวของภาคการผลิตภาคเกษตรกรรม(ราคาป 2531) 119,447 93,897 75,278 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 0.9 1.6 1.0 นอกภาคเกษตรกรรม (ราคาป 2531) 943,833 962,347 932,451 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 4.6 4.0 3.6 ภาคอุตสาหกรรม(ราคาป 2531) 413,998 418,025 405,768 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 5.8 4.8 4.6 ภาคการใชจายการบริโภคของเอกชน (ราคาป 2531) 550,515 547,998 561,477 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 2.5 2.3 2.1 การลงทุน(ราคาป 2531) 231,622 236,429 240,705 ลานบาท- อัตราการขยายตัว -% 2.4 1.2 -0.5 ภาคบริการ130,856 144,136 115,079 จํานวนนักทองเที่ยวลานบาท3,656,255 3,767,329 3,007,870 รายไดจากนักทองเที่ยวคนบาท/US36.23 35.38 34.87 อัตราแลกเปลี่ยนภาคการเงิน4.894.693.50-3.75อัตราดอกบี้ยR/P 1 วัน% ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 17
แนวโนมเศรษฐกิจในประเทศป2550 สําหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในป 2550 มีแนวโนมชะลอตัวลงเนื่องจากการเมืองไทยขาดเสถียรภาพ ตลอดจนปจจัยเสี่ยงตางๆ ที่รุมเราเศรษฐกิจไทยยังคงเกิดขึ้นอยางตอเนื่องไมวาจะเปนระดับราคาน้ํามัน การแข็งคาขึ้นของคาเงินบาทความเชื่อมั่นของผูบริโภคและผูประกอบการที่อยูในระดับต่ําสุดในรอบ5 ป และสถานการณความไมสงบในเขต3 จังหวัดชายแดนภาคใตปจจัยบวกของเศรษฐกิจไทยในป2550 ที่สําคัญประกอบดวย1. เศรษฐกิจโลกและปริมาณการคาของโลกยังขยายตัวอยูในระดับใกลเคียงกับปนี้ โดยเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวในระดับสูงอยางตอเนื่อง (โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย) แมวาจะชะลอตัวลงเล็กนอยก็ตามกลาวคือเศรษฐกิจโลกและปริมาณการคาของโลกในป2550 ขยายตัวประมาณ4.9% และ7.0% ตามลําดับเทียบกับระดับ5.4% และ9.2% 2. อัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวลดลงอยางตอเนื่อง โดยในปนี้อัตราดอกเบี้ยมีโอกาสปรับตัวลดลงประมาณ1.0-1.25% 3. การใชงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลไทยในวงเงิน1.52 ลานลานบาทซึ่งขาดดุลงบประมาณจํานวน1 แสนลานบาท โดยคาดวาจะมีการใชจายตามงบประมาณใหมไดตั้งแตตนป 2550 จะเปนปจจัยกระตุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสรางเงินหมุนเวียนใหกับระบบเศรษฐกิจไทย4. รัฐบาลพยายามกระตุนเศรษฐกิจโดยใชนโยบายการคลังและนโยบายการเงินแบบผอนคลายอยางตอเนื่องสําหรับปจจัยลบของเศรษฐกิจไทยในป2550 ที่สําคัญประกอบดวย1. สถานการณทางการเมืองที่มีความไมแนนอนสูง สงผลกระทบในเชิงลบตอความเชื่อมั่นของผูบริโภคและผูประกอบการ2. ความเชื่อมั่นของผูบริโภคและผูประกอบการอยูในระดับต่ําสุดในรอบ5 ปและยังไมมีแนวโนมปรับตัวดีขึ้น สงผลใหผูบริโภคชะลอการใชจายและผูประกอบการชะลอการลงทุนและการจางงานอยางตอเนื่อง3. คาเงินบาทที่มีแนวโนมทรงตัวแข็งคาในระดับเฉลี่ย35 บาทตอดอลลาร โดยคาดวาเงินบาทจะแข็งคาขึ้นตามเงินสกุลเอเชียและการออนตัวลงของดอลลารสหรัฐ สงผลใหคาเงินบาทนาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.5-35.0 บาทตอดอลลารในชวงครึ่งแรกของป และเคลื่อนไหวในกรอบ35.0-35.5 บาทตอดอลลารในชวงครึ่งหลังของป ซึ่งจะสงผลกระทบในเชิงลบตอการสงออกของไทยศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 18
4. ระดับราคาน้ํามันโลกระดับราคาน้ํามันในป2550 คาดวาจะทรงตัวอยูในระดับใกลเคียงกับป2549 โดยระดับราคาน้ํามันดิบโดยเฉลี่ยในป2550 คาดวาจะทรงตัวอยูในระดับ60-65 ดอลลารสหรัฐฯตอบารเรล(หรือเฉลี่ยประมาณ 63 ดอลลารสหรัฐฯตอบารเรล) ซึ่งจะสงผลใหราคาน้ํามันขายปลีกในประเทศทรงตัวใกลเคียงกับปที่ผานมา โดยคาดวาราคาน้ํามันดีเซลจะทรงตัวอยูในระดับ25-28 บาทตอลิตรและราคาน้ํามันเบนซินที่จะทรงตัวอยูในระดับ26-29 บาทตอลิตรจะสงผลกระทบตอตนทุนการผลิตและราคาสินคาปรับตัวสูงขึ้นไมมากนักศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทย ไดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในป2550 ภายใตสมมติฐานวาราคาน้ํามันดิบในตลาดโลกอยูในระดับ 6065 ดอลลารฯตอบารเรล และคาเงินบาทอยูในระดับ34.7-35.2 บาทตอดอลลารโดยคาดวาเศรษฐกิจไทยในปนี้มีโอกาสขยายตัวประมาณ3.5-4.0% (โดยเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว3.4-3.8% ในชวงครึ่งแรกของป และขยายตัว3.2-4.5% ในชวงครึ่งหลังของป) ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดวาเศรษฐกิจไทยในปนี้มีโอกาสขยายตัวประมาณ4.0-4.5% (โดยเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว4.0-4.5% ในชวงครึ่งแรกของป และขยายตัว4.5-5.0% ในชวงครึ่งหลังของป) - การสงออก คาดวาจะมีอัตราการขยายตัวตลอดทั้งป2550 ประมาณ 8.0-10.จ% ลดลงจากเดิมที่คาดวาขยายตัวประมาณ 9.0-11.5% สําหรับการนําเขานั้นคาดวาจะมีอัตราการขยายตัว 7.5%-9.5% ในป2550 ลดลงจากเดิมที่คาดวาขยายตัวประมาณ10.0-12.0% - ดุลการคาและดุลบัญชีเดินสะพัดคาดวาในป2550 ประเทศไทยจะมีดุลการคาขาดดุลประมาณ4,000-5,000 ดอลลารสหรัฐฯหรือคิดเปน1.7-2.1% % ของGDP (เดิมคาดวาดุลการคาขาดดุลประมาณ 1,500-2,500 ดอลลารสหรัฐฯหรือคิดเปน0.6-1.1% ของGDP) ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 5,500-6,500 ลานดอลลารสหรัฐฯ หรือเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 2.3-2.7% ของGDP (เดิมคาดวาดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ3,000-4,000 ดอลลารสหรัฐฯหรือคิดเปน1.3-2.7% ของGDP) - อัตราเงินเฟอคาดวาในป2550 อัตราเงินเฟอจะมีแนวโนมปรับตัวลดลงอยางตอเนื่องจากปที่ผานมาโดยอัตราเงินเฟออยูในระดับ1.8-2.3% ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดวาอัตราเงินเฟออยูในระดับ2.2-2.7% ศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 19
ตาราง ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยป2550 รายการหนวย2548 2549 2550-F 2550-F (เดิม) (ปรับใหม) 1/การขยายตัวของปริมาณการคาโลก% 7.4 9.2 7.6 7.0 1/การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลก% 4.9 5.4 4.9 4.9 1/-สหรัฐอเมริกา% 3.2 3.3 2.9 2.2 1/- สหภาพยุโรป% 1.3 2.6 2.0 2.3 - ญี่ปุน1/% 2.6 2.7 2.1 2.9 ราคาน้ํามัน$ ตอบารเรล53.6 64.0 61.5 63.0 GDP (ราคาปปจจุบัน) พันลานบาท7,088 7,813 8,439 8,342 GDP (ราคาป2531) พันลานบาท3,851 4,044 4,226 4,197 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ% 4.5 5.0 4.5 3.8 ภาคการผลิต(อัตราการขยายตัว) % -3.2 4.4 3.8 2.7 - ภาคเกษตรกรรม% 5.3 5.0 4.6 3.9 - นอกภาคเกษตรกรรม% 5.2 6.1 5.6 4.5 ภาคอุตสาหกรรมภาคการใชจาย(อัตราการขยายตัว) % 4.3 3.1 3.8 2.4 - การบริโภคของเอกชน% 11.1 4.0 7.6 1.2 - การลงทุนศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
--------------------------------------------------------------------------------
Page 20
ตาราง ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยป2550 (ตอ)รายการหนวย2548 2549 2550-F 2550-F (เดิม) (ปรับใหม) มูลคาการสงออกลานUS $ 109,193 128,220 141,042 141,042 อัตราการขยายตัว% 15.0 17.4 10.0 10.0 มูลคาการนําเขาลานUS $ 117,722 125,975 139,203 136,557 อัตราการขยายตัว% 25.9 7.0 10.5 8.4 ดุลการคาลานUS $ -8,530 2,245 1,839 4,485 สัดสวนตอGDP % -4.8 1.1 0.8 1.9 ดุลบัญชีเดินสะพัดลานUS $ -3,714 3,240 3,339 5,985 สัดสวนตอGDP % -2.1 1.6 1.4 2.5 อัตราเงินเฟอ% 4.5 4.8 2.5 2.0 อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ US $ 40.3 38.0 36.3 35.0 ที่มา: สํานักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติกระทรวงพาณิชยและธนาคารแหงประเทศไทย(เฉพาะ1/ ขอมูลจากกองทุนการเงินระหวางประเทศ) ราคาน้ํามันคือราคาน้ํามันดิบเฉลี่ยที่ดูไบ เบรนทและเวสตเท็กซัสF คือคาประมาณป2550 โดยศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยศูนยพยากรณเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการคาไทยThe Center for Economic and Business Forecasting
mrkong

kikkok

toonny

wasna

amornrat

ภาพถ่ายของฉัน
ploy
poom

"
poy
sompong





วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

บุ๋มบิ๋ม
Nu_BOOMBIM
อภิชาติ ลับภู
คิน แช ยอง
Malivan
ole

hackza

Anupon

Nan

เราเอง Nannan
ธานิดา

ธานิดา
Chompoo

Pharadorn

Araya

Meepooh
Sudaphon
Tanyatip

Cake

Puker

♥NamfoN♥


วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

Picasa Aresenal

จาก apisit

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

blog เพื่อนๆๆ

Mr Olarik http://kong2552.blogspot.com/
film http://feemmily.blogspot.com/
กุ้ง http://gungii.blogspot.com/
อ๋อย http://oil-alala.blogspot.com/
น้ำพุ http://anupon-poo.blogspot.com/
บุ๋ม http://bcon51.blogspot.com/
กำไล http://kumlai.blogspot.com/
เค้ก http://cakeki.blogspot.com/
กะเช้า http://krachaow.blogspot.com/
ปลัก http://pukerza.blogspot.com/
แอร http://somnong.blogspot.com/
ปิ๊ก http://ookapik.blogspot.com/
แฮ๊ค http://hackzaa.blogspot.com/
เล็ก http://jakkachai.blogspot.com/
มาร์ก http://marchmero.blogspot.com/
ปอป http://poy-nana.6.blogspot.com/
เป้ย http://peiploy.blogspot.com/
จุ๊ http://tanyatip.blogspot.com/
เกษ http://missketkaew.blogspot.com/
ต๋อย http://wasnanaka.blpgspot.com/
อัญ http://yurisang.blogspot.com/
ตั๊ก http://tukjja.blogspot.com/
แนน http://whynannann.blogspot.com/
ส้ม http://malivan1012.blogspot.com/
แพท http://sukanya-pat.blogspot.com/
น้ำฝน http://namfongis.blogspot.com/
ธัญญาทิพย์ http://tanyatip49.blogspot.com/
เฟิร์น http://twiater-tasmanian.blogspot.com/

วีดีโอ

แผนที่


View Larger Map

ปฏิทิน

วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552

ขอแนะนำตัวหน่อย



นายอภิสิทธิ์ สาสีเสาร์ อายุ 19 ปี เกิด 9 พฤษภาคม 2532

ชื่อเล่น เอ๋ย

นิสัย ร่าเริงแจ่มใส

ปัจุบันเรียนสาขาวิชาการเมืองการปกครอง

วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ที่อยู่ 84 หมู่ที่5 ต. หนองเทพ อ. โนนนารายณ์ จ. สุรินทร์ 32130

อีเมลล์ ahei51011311322@gmail.com

Tel. 0877791646